TH-Education The source of new generation Thai students
TH-Education Close Refresh Back Forward
   Main Menu
 - Home
 - Forums
 - Links
 - Polls
 - Contact
 - Guestbook

 - Chatroom
 - บทความต่างๆ

  Miscellaneous
 - FAQ
 - Download
 - 
Webpage ที่เกี่ยวข้อง
 

   Contact Us
 - nut
 

   Link Me
 
 

 

 
คู่มือวัยใส หรือ วัยเซ็กส์
Last Update Monday, January 29 @ 20:39 From http://www.thairath.co.th
แทบไม่น่าเชื่อว่า หนังสือโนเนมที่แทบจะไม่มีคนรู้จัก จะส่งแรงกระเพื่อมในสังคมได้ไม่แพ้หนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คดังๆ ใต้ฟ้าเมืองไทยประเทศนี้ "คู่มือวัยใส" เป็นชื่อของหนังสือขนาดพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้ ซึ่งมีจำนวนหน้าเพียง 32 หน้าเท่านั้น แต่เนื้อหาภายในทำเอาพ่อ-แม่ผู้ปกครอง นักวิชาการหลายคนที่เปิดอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเกิดอาการสะดุ้งแทบจะตกเก้าอี้
เพราะตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย เนื้อหาหนังสือคู่มือวัยใส จะเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศศึกษาทั้งสิ้น ไล่เลียงมาตั้งแต่เรื่องสรีรวิทยาของหนุ่ม-สาววัยแตกพาน เรื่อยไปตั้งแต่ภายนอกจนถึงรายละเอียดของระบบอวัยวะสืบพันธุ์
แต่ที่ไม่ธรรมดานั้น อยู่ในหน้า 17 ของหนังสือ หัวข้อคือ ถ้าเรามีความรู้สึกทางเพศ จะทำอย่างไร? นั้น คู่มือวัยใส เริ่มเกริ่นว่า ความรู้สึกทางเพศเป็นความต้องการตามธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อหญิง-ชายเข้าสู่วัยรุ่น และฮอร์โมนในร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เกิดแรงขับทางเพศที่เป็นตัวการก่อให้เกิดความต้องการทางเพศ ซึ่งแต่ละคนจะมีความต้องการมากน้อยต่างกันไป วัยรุ่นแต่ละคนจะเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ในการสนองความต้องการทางเพศให้กับตนเอง โดยการสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกาย
โดยเฉพาะการสัมผัสที่บริเวณอวัยวะเพศเพื่อลดความกดดันทางกาย และให้เกิดความผ่อนคลาย หลังจากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาวิธีการสัมผัสอวัยวะเพศของตนจนถึงจุดสุดยอด และจะเรียนรู้วิธีการที่จะสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
จากนั้น หนังสือได้บรรยายถึงวิธี และเทคนิคการสำเร็จความใคร่ของหญิง-ชายอย่างละเอียดยิบ พร้อมกับใช้ศัพท์แสงเรียกชื่อวิธีการสำเร็จความใคร่อย่างโจ่งแจ้ง เช่นชายเรียกเป็นกีฬาไทยชนิดหนึ่ง ซึ่งนิยมเล่นกันในทุ่งกว้างกลางฤดูร้อน ส่วนฝ่ายหญิงเรียกเป็นกีฬาทางน้ำอย่างหนึ่งที่ใช้คันเบ็ดเป็นอุปกรณ์
และสรุปในตอนท้ายว่า การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองกี่ครั้งถึงจะพอ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สุขภาพ และสภาวะจิตใจของแต่ละคน จุดสุดยอดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน
"ทุเรศสิ้นดี" เป็นวลีแรกที่อาจารย์แม่ รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ ประธานบริหารวิทยาลัยรัตนบัณฑิต กล่าวกับ คม ชัด ลึก หลังจากทราบเนื้อหาโดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้ภาษาบางตอนของหนังสือคู่มือวัยใส พร้อมกับวิจารณ์หนังสือเล่มนี้อย่างเผ็ดร้อนว่า ใช้ภาษาไทยไม่ถูกกาลเทศะในการสื่อเรื่องเพศศึกษา ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ถ้อยคำบรรยายที่เถรตรงขนาดนี้
การนำเสนอน่าจะเลี่ยงใช้วิธีการพรรณาโวหารแบบวรณคดีไทย ซึ่งผลที่จะตามจะไม่ใช่เป็นการสอนเรื่องเพศศึกษาตามวัตถุประสงค์ แต่กลับกลายเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนฝักใฝ่กับเรื่องเพศมากขึ้น
"อย่ามาอ้างเลยว่าเป็นการสอนเพศศึกษายุคใหม่ ทำให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น ความคิดที่สอนเพศศึกษาแบบเปิดกว้างขัดกับวัฒนธรรมไทย ปู่ย่า-ตายาย พร่ำสอนมาหลายชั่วคนว่าเป็นหญิงให้รักนวลสงวนตัว แต่กลับจะให้ผู้คนยอมรับให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน แล้วสอนวิธีป้องกันไม่ให้ตั้งท้องป็นเรื่องที่รับไม่ได้" อาจารย์แม่กล่าว และว่าเรื่องนี้กำลังขัดขานโยบายจัดระเบียบสังคมของรัฐบาล ที่กำลังพยายามจัดระเบียบให้เยาวชนเข้าไปอยู่ในกรอบสังคมไทยอันดีงาม
เช่นเดียวกันกับ ดร.เสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านการประชาสัมพันธ์ ตำหนิสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้การสนับสนุนเงินงบประมาณจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้นับล้านบาทว่า ทำไปโดยไม่พิจารณาอย่างรอบคอบ
"การสอนเพศศึกษาไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ น่าจะมีทางออกตรงกลางระหว่างศัพท์แสงทางวิชาการ และภาษาทางเพศ ฉะนั้น เรื่องนี้จะต้องมีการทบทวนถึงความเหมาะสมตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยด้วย" ดร.นะยะ กล่าว
แต่สำหรับเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือคู่มือวัยใส นายสมศักดิ์ เวียงย่างกุ้ง ผู้อำนวยการสยาม-แคร์ กลับยืดอกภูมิใจกับหนังสือเล่มนี้ เพราะเขาเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยต้องยอมรับกันเสียทีว่า เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ ฉะนั้น การสอนให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาต้องตรงจุด ไม่อ้อมค้อมเหมือนที่แล้วมา ทั้งนี้ คู่มือวัยใสตั้งใจที่จะให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถึงแก่นจริงๆ และตั้งใจที่จะให้แตกต่างจากตำราสุขศึกษาที่มีเนื้อหาเชิงวิชาการมากเกินไปจนเด็กไม่เข้าใจ
ก่อนที่จะตีพิมพ์ ได้มีการวิจัยสอบถามความเห็นวัยรุ่นสังกัดกลุ่มเยาวชน ต้นกล้า มุกดาหาร และวัยรุ่นทั่วไปถึง 2 ปี จึงได้ข้อสรุปว่าภาษาที่ใช้ต้องเป็นภาษาที่วัยรุ่นพูดคุยกันอยู่แล้ว จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าภาษาทางวิชาการ
ไม่ได้มีเจตนายั่วยุ หรือส่งเสริมให้เด็กหมกมุ่นกับเรื่องเพศ แต่ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องยอมรับความจริงว่า เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย และควรให้เยาวชนรับรู้อย่างถูกต้อง
"อยากถามว่าวัยรุ่นคนไหนไม่เคยช่วยตัวเองบ้าง ทั้งหญิง-ชาย ร้อยละเก้าสิบเก้าเคยทั้งนั้น คู่มือวัยใสจึงไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก แต่ข้อเท็จจริงแล้วกระรอกลงรูทุกตัวอยู่แล้ว เราเพียงเข้ามาแนะนำ และให้เขาป้องกันผลเสียที่จะตามมา อย่างเช่นทำอย่างไรจึงไม่ตั้งครรภ์หากมีเซ็กส์ก่อนวัยอันควร" นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสุวินิจ ปัญจมะวัติ หรือหนุ่ม นักแสดงวัยรุ่นเรื่อง จันดารา ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.5 ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี ให้ความเห็นว่า คู่มือวัยใสใช้ถ้อยคำเปิดเผยไปหน่อย แต่ไม่รู้สึกอะไร เพราะเป็นศัพท์ที่ใช้กันในหมู่วัยรุ่นอยู่แล้ว สำหรับผู้ใหญ่มาอ่านเจอเข้าอาจจะตกใจ
"ผมว่ามีหนังสือแบบนี้ก็ดีอย่างเสียอย่างนะ คือ เป็นเรื่องที่วัยรุ่นอยากรู้ ใช้คำเข้าใจง่าย ต่างจากวิชาสุขศึกษาที่ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะเป็นเรื่องวิชาการเกินไป เด็กไม่ค่อยเข้าใจ แต่พ่อ-แม่คงรับไม่ได้" ดาราวัยรุ่น กล่าว
นายทศพล เชี่ยวชาญประพันธ์ ประธานสภาเยาวชน ปี 2543 อายุ 16 ปี กำลังศึกษาชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นหนังสือเล่มดังกล่าว แต่เห็นด้วยที่จะมีหนังสือซึ่งเปิดให้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นไปในลักษณะเชิงวิชาการ ชีววิทยา สรีรวิทยา กายวิภาค ไม่ได้ออกมาในรูปของลามกอนาจาร
"ผมว่าเรื่องเพศเปิดไปเลยก็ดี เพราะถ้าไม่ได้ออกมาในรูปของตัวหนังสือที่ถูกต้อง ปัจจุบันก็มีสื่อลามกมากมายที่จะเข้าถึงได้ เรียกว่ายิ่งปิดมันก็ออกมาด้วยวิธีอื่นๆ ซึ่งถ้ายิ่งออกมาอย่างไม่เปิดเผย ทางการควบคุมไม่ได้ กลายเป็นว่าต้องตามไปแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ" นายทศพล กล่าว
คู่มือวัยใส จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2543 จำนวน 5,000 เล่ม และได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวางจนหนังสือที่แจกไปตามสถานศึกษาทั่วประเทศหมดลงภายในเวลา 1 เดือน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงได้เข้ามาสนับสนุนเงินงบประมาณจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2545 จำนวน 100,000 เล่ม
ขณะเดียวกัน บนแผงหนังสือบ้านเราก็มีหนังสือ และตำราสอนเพศศึกษาแนวใหม่เกิดขึ้นมาหลายเล่ม และได้รับการตอบสนองจากผู้อ่านเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะเปิดกว้างยอมรับเรื่องเพศศึกษาในชีวิตประจำวันมากขึ้น
แม้คู่มือวัยใสจะสร้างให้เกิดกระแสความขัดแย้งทางความคิดเกี่ยวกับวิธีการสอนเพศศึกษา แต่ก็ถือว่าเป็นการตอกย้ำสังคมให้หันมาสนใจ และร่วมกันตัดสินอย่างจริงจังว่า การสอนเพศศึกษาควรจะกระมิดกระเมี้ยนสอนกันแบบเก่า หรือจะเปิดกว้างกันอย่างอย่างเต็มที่ หรือจะประสานสองแนวทางเข้าด้วยกัน ด้วยทางสายกลาง ผลประโยชน์ก็จะตกกับเยาวชน ซึ่งสับสนแกว่งไกวกับเรื่องนี้มานานแล้ว
 

คู่มือวัยใส หรือ วัยเซ็กส์ ( comments? )

Thank to  Tripod  Fastcounter by bCentral  Power by Thaimisc.com